Gooner Journey: "ปืนใหญ่"ฉลองคริสมาสต์ด้วยตำแหน่งจ่าฝูง
อาร์เซนอล ใช้เวลาในช่วงวันคริสต์มาสปี 2023 ด้วยการรั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตามเราจะมาเจาะประเด็นถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า พาทีมมาได้ไกลถึงขนาดนี้
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า "พลพรรคทัพปืนใหญ่" มีผลงานที่ดิ่งลงเหวตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่พวกคว้าแชมป์มาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้เพียง 1 ใบ จากช่วง 5 ซีซั่นหลังสุด ซึ่งนั่นก็คือ เอฟเอ คัพ ในปี 2019/2020 พร้อมกับการไม่ได้เข้าร่วมชิงชัยในศึกแชมป์เปี้ยนส์ลีกนานกว่า 5 ฤดูกาล
ตลอดระยะเวลาที่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามารับหน้าที่กุมบังเหียนของสโมสร เขาได้พูดอยู่เสมอว่าภารกิจที่สำคัญคือการเปลี่ยนแนวความคิดของทีมให้กลายเป็น “ผู้ชนะ” มากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงกับนักเตะแต่รวมถึงทุกคนภายในสโมสรแห่งนี้
“เมื่อผมมาถึงที่ลอนดอนในปี 2019 ผมมีภารกิจเดียวเท่านั้น คือการให้ผู้เล่น และทีมงานเชื่อว่าเราทำได้และเราจำเป็นต้องทำ เราต้องมีความมั่นใจและต้องสม่ำเสมอในการกระทำ”
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา(2022/2023) สิ่งที่"กุนซือชาวสแปนิช"พยายามบ่มเพาะมาโดยตลอดก็เริ่มจะ ผลิดอกออกผลไปในทิศทางที่ถูกที่ควร เนื่องจากกลุ่มผู้เล่นส่วนใหญ่ของ อาร์เซนอล มี DNA ของสิ่งที่เรียกว่า“ความกระหาย”มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และพร้อมจะชนกับคู่แข่งทุกทีมโดยมีเพียงเป้าหมายเดียวก็คือ "การต่อสู้เพื่อชัยชนะ"
จวบจนเข้าสู่ฤดูกาลปัจจุบัน อาร์เซนอล ยังคงออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขารั้งตำแหน่งบนสุดของตารางหลังเดินทางเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปิดกล่องของขวัญ ลูกทีมของมิเกลเก็บไปได้ 40 คะแนนจากการลงสนาม 18 เกม อีกทั้งพวกเขายังทำลายสถิติการเผชิญหน้ากับทีมใหญ่ในช่วงเลกแรกของซีซั่นด้วยการไม่ปราชัยให้กับทีมใดเลย (ชนะ: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้) (เสมอ: เชลซี, ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส)
แม้ทางด้าน อาร์เตต้า จะพอใจที่ทีมของเขายังครองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้ แต่ก็แอบเสียดายที่ไม่สามารถบุกไปเอาชนะ ลิเวอร์พูล ถึงสนามแอนฟิลด์ในเกมล่าสุด บางสิ่งบางอย่างอาจจะยังติดอยู่ภายในใจของชายผู้นี้ รวมถึงแฟนบอลอย่างผมด้วย แต่เชื่อเถอะ เราจะทำตามสัญญา..ขอเวลาอีกไม่นานครับ !
เขียนโดย The Lite Team.